อ่านส่วนผสมในสกินแคร์ รับรองว่าผิวไม่แพ้ ไม่พัง! ง่ายๆใน 4 ขั้นตอน
8194 จำนวนผู้เข้าชม |
อ่านส่วนผสมในสกินแคร์ รับรองว่าผิวไม่แพ้ ไม่พัง! ง่ายๆใน 4 ขั้นตอน
การตัดสินใจเลือกซื้อสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิวของเราสักตัวว่ายากแล้ว แต่การอ่านและพยายามทำความเข้าใจรายละเอียดของส่วนผสมที่ยาวเหยียดนั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า!!! ทั้งชื่อสารสกัด หรือสารเคมีต่างๆในภาษาที่ไม่คุ้นเคย ไหนจะศัพท์เฉพาะที่ผู้บริโภคอย่างเราๆไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ไม่ต้องกลุ้มใจไปค่ะ เพราะวันนี้ Sophist Medic จะมาบอกเทคนิคง่ายๆในการอ่านส่วนผสมในสกินแคร์ให้สุดปัง ไม่มีงง ไม่มีพัง มาฝากกันค่ะ
4 Step อ่านส่วนผสมในสกินแคร์
- น้ำหอม (Perfume/Fragrance) น้ำหอมหรือสารแต่งกลิ่น จะทำให้ผิวของเราระคายเคืองหรือเป็นผื่นแพ้ได้
- ผลิตภัณฑ์แต่งสี (Synthetic Colour) เป็นสารแต่งสีให้สกินแคร์มีสีที่สวยงามน่าใช้ อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวได้ หรือเมื่อใช้เป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดการสะสมในชิ้นผิวและเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งได้
- แอลกอฮอล์ (Alcohol) แอลกอฮอล์จะทำให้ผิวของเราระคายเคือง และเป็นผื่นแพ้ได้เช่นกัน บางครั้งส่วนผสมที่แสดงจะไม่ใช้คำว่า “Alcohol” แบบตรงๆ แต่เลี่ยงไปใช้ชื่ออื่นแทน เช่น Ethanol, Methanol, Isopropyl alcoho, SD Alcohol เป็นต้น หากเห็นคำว่า Alcohol ในส่วนผสมเมื่อไหร่ เราควรเช็คดูให้แน่ใจทุกครั้งค่ะ
- พาราเบน (Paraben) คือ สารกันเสียที่มักผสมลงไปในสกินแคร์ ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวได้ พาราเบนที่เรามักพบในสกินแคร์ เช่น Methylparaben, Ethylparaben, propylparaben, Butylparaben, Isobutylparaben และ Isopropylparaben
- สารกลุ่มซัลเฟต ได้แก่ Sodium Lauryl Sulfate (SLS) และ Sodium Laureth Sulfate (SLES) มักพบในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้า เพราะจะช่วยให้เกิดฟองนั่นเองค่ะ ซึ่งสารกลุ่มซัลเฟตนี้จะเป็นตัวดึงความชุ่มชื้นไปจากผิวหนังของเรา ทำให้ผิวหน้าของเราแห้งตึง และเกิดอาการระคายเคืองได้ง่ายขึ้นค่ะ
- สารปรอท (Mercury) เป็นสารอันตรายที่สกินแคร์ประเภทปรับผิวขาว ลดฝ้า กระ และสิวได้อย่างรวดเร็ว แต่จะส่งผลต่อผิวของผู้ใช้ในระยะยาว โดยจะทำให้ผิวบางลง เกิดอาการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำและเกิดฝ้าถาวร เมื่อใช้เป็นเวลานานจะทำให้เกิดการสะสมของสารปรอทในผิวหนัง ดูดซึมเข้ากระแสเลือดและทำให้ตับและไตอักเสบได้
2.ส่วนผสมที่มีปริมาณมากที่สุดจะถูกแสดงเป็นอันดับแรกๆเสมอ
เราจะเห็นว่าส่วนผสมของสกินแคร์จะถูกระบุเรียงต่อกันยาวเหยียด แต่ตามหลักแล้วจะระบุเรียงลำดับจากสารสกัดที่มีปริมาณมากที่สุดไปหาตัวที่น้อยที่สุด ดังนั้นหากเราต้องการเน้นให้สารสกัดตัวไหนมีปริมาณมากหน่อย ก็ให้ดูว่าติด 1 ใน 5 อันดับแรกที่แสดงไว้หรือไม่ (ส่วนผสมในอันดับที่ 6 เป็นต้นไป จะมีปริมาณที่ลดหลั่นลงมา)
3. ระวังคำว่า “และส่วนผสมอื่นๆ” หรือ “And Other Ingredients” ไว้ให้ดี
หากสกินแคร์ตัวไหนแจ้งรายละเอียดของส่วนผสมไว้ไม่ครบทุกตัว เราสามารถติดต่อสอบถามไปยังแบรนด์เพื่อขอชื่อส่วนผสมที่เหลือได้ เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่าสกินแคร์เหล่านั้นปลอดภัยกับตัวเราแน่นอน หากทางแบรนด์ชี้แจงส่วนผสมอื่นๆให้เราทราบไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะมีสารสกัดบางตัวที่แบรนด์ไม่อยากให้เรารู้ว่ามีอยู่ในผลิตภัณฑ์ หากดูไม่น่าไว้วางใจ ให้เราหลีกเลี่ยงจะดีกว่าค่ะ
4. ตรวจสอบส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งผ่านเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ
ข้อแนะนำ
- นอกเหนือไปจากการตรวจดูส่วนผสมแล้วนั้น สิ่งที่เราควรเช็คควบคู่ไปด้วย คือ วันเดือนปีที่ผลิตและวันหมดอายุ คุณภาพ มาตรฐานที่ได้รับการรับรอง สถานที่หรือโรงงานที่ผลิตมีความน่าเชื่อถือไหม ประกอบการตัดสินใจซื้อทุกครั้งค่ะ
- ส่วนผสมประเภทแอลกอฮอล์ (Alcohol) บางตัวนั้นไม่เป็นอันตรายต่อผิว แต่ทำหน้าที่คล้ายไขมัน ที่ช่วยบำรุงไม่ให้ผิวของเราแห้งจนเกินไป เช่น Behenyl Alcohol, Cetearyl Alcohol และ Arachidyl Alcohol เป็นต้น
เห็นไหมคะสาวๆ ว่าส่วนผสมในสกินแคร์ไม่ได้น่ากลัวและเข้าใจยากอย่างที่เราเคยคิด กลับกันยิ่งเราได้ศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับส่วนผสมในสกินแคร์ไว้มากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เราเป็นคนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างเหมาะสมกับสภาพผิวของเรามากยิ่งขึ้น ผิวของเราก็จะได้รับการบำรุงที่ปลอดภัยและเห็นผลอย่างแน่นอน
