“กระเนื้อ” ปัญหาผิวหนังกวนใจ ในวันที่เราอายุเพิ่มขึ้น

     “กระเนื้อ” ปัญหาผิวหนังกวนใจ ในวันที่เราอายุเพิ่มขึ้น

      เคยไหมคะที่ก้มมองแขนของตัวเองแล้วได้แต่คิดแล้วก็สงสัยว่าเจ้าตุ่มสีน้ำตาลอ่อน ที่บางอันก็มีผิวเรียบๆ บ้างก็มีผิวขรุขระ เหล่านี้มันคืออะไร มีที่มาจากไหน ทำไมก่อนจะเป็นไม่เห็นจะมีอาการอะไรเลยสักอย่าง แต่พอรู้ตัวอีกทีก็เห็นตุ่มเนื้อเหล่านี้เต็มตัวไปหมดแล้วเสียอย่างงั้น ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะวันนี้ Sophist จะมาบอกให้ทุกคนรู้จักเจ้าตุ่มเนื้อที่เราเรียกกันว่า “กระเนื้อ” กัน

      กระเนื้อ เกิดจากความผิดปกติของผิวหนังชั้นนอกสุด มีลักษณะเป็นตุ่มแบน มีผิวขรุขระเล็กน้อย พบได้หลายสีทั้งสีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้ม และสีดำ มีขนาดตั้งแต่เป็นจุดเล็กๆและอาจขยายใหญ่จนมีขนาดหลายเซนติเมตร พบได้บ่อยบริเวณใบหน้า หนังศีรษะ หน้าอกและหลัง โดยกระเนื้อเหล่านี้จะเพิ่มปริมาณมากขึ้นเมื่อเรามีอายุเพิ่มขึ้น พบได้ตั้งแต่กลุ่มอายุ 30 ปีเป็นต้นไป และเมื่อยิ่งเข้าสู่วัยชรามากขึ้นเท่าไหร่ กระเนื้อเหล่านี้ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

สาเหตุของกระเนื้อ

      ในปัจจุบันสาเหตุของการเกิดกระเนื้อนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ แต่เชื่อว่ามีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

• อายุ พบบ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปได้ถึง 90% และในกลุ่มวัยกลางคนอายุระหว่าง 30-40 ปี ทั้งในเพศชายและเพศหญิง
• พันธุกรรม ยิ่งถ้าคนในครอบครัวของเราเป็นกระเนื้อกันมาก เราก็จะยิ่งมีโอกาสที่จะมีกระเนื้อมากเช่นเดียวกัน
• ภาวะตั้งครรภ์หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อีกหนึ่งปัจจัยที่เชื่อกันว่าทำให้เกิดกระเนื้อเพิ่มมากขึ้นคือ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน  
• แสงแดดและสารอนุมูลอิสระ เมื่อผิวถูกทำร้ายโดยแสงแดด จะทำให้สารอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นในชั้นผิวอย่างรวดเร็ว ยิ่งตากแดดมากและนาน ก็จะยิ่งทำให้มีโอกาสมีกระเนื้อเพิ่มมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
• สาเหตุอื่นๆ เช่น การติดเชื้อไวรัส การเป็นโรคผิวหนังอื่นๆ (หูด ไฝ ฯลฯ) การกลายพันธุ์ของยีนส์ เป็นต้น

รักษากระเนื้อได้อย่างไร

      เนื่องจากในปัจจุบันนั้นยังไม่มีวิธีใดที่ป้องกันไม่ให้เกิดกระเนื้อ แต่สามารถทำการรักษากระเนื้อที่เกิดขึ้นมาแล้วได้ โดยมีวิธีการรักษา ดังนี้

• การจี้ออกด้วยเลเซอร์ แพทย์จะทำการฉีดยาชาลงไปบริเวณกระเนื้อ แล้วจี้บริเวณกระเนื้อด้วยเลเซอร์ และจะทำการขูดเนื้อเยื่อบริเวณกระเนื้อออก
• จี้ด้วยสารเคมี เช่น กรดไตรคลออะซิติก โดยเป็นการใช้สารเคมีจี้ให้เนื้อเยื่อบริเวณกระตาย และค่อยๆหลุดออกไป
• การจี้ด้วยไนโตรเจนเหลว โดยการใช้ไนโตรเจนจี้เข้าไปบริเวณกระเนื้อจนทำให้เกิดตุ่มน้ำพอง หลังจากนั้นจะแห้งและหลุดออกเป็นสะเก็ด

      สรุปได้ว่า กระเนื้อ เป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้ทั่วไป ไม่จัดเป็นอันตรายต่อร่างกาย ยิ่งเมื่อเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยกลางคนจนถึงวัยชรา จะยิ่งพบปัญหากระเนื้อได้มากยิ่งขึ้ โดยในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการป้องกันการเกิดกระเนื้อที่ได้ผล แต่ทั้งนี้เราสามารถป้องกันการเกิดกระเนื้อได้ด้วยการหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดโดยตรง หมั่นใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด หลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วง 10 โมงเช้าถึงช่วง 15 นาฬิกาเพราะเป็นช่วงที่แดดแรงมากที่สุด และสวมเสื้อผ้าปกปิดร่างกาย (ขายาว แขนยาว หมวก เสื้อคลุม ฯลฯ) ทั้งนี้ยังสามารถเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวหน้าและผิวกายด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เพื่อเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้นได้อีกด้วย