ดูแลผิวอย่างไร ในวันที่ค่าฝุ่น Pm 2.5 พุ่งสูง

ดูแลผิวอย่างไร ในวันที่ค่าฝุ่น Pm 2.5 พุ่งสูง

      ต้องยอมรับจริงๆว่าปัญหาฝุ่น pm 2.5 เป็นปัญหาที่ยังแก้กันไม่ตก วันไหนที่อากาศไม่ค่อยถ่ายเท เราก็ต้องกลับมาเผชิญกับเจ้าฝุ่นจิ๋วนี้อยู่เรื่อยไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้คนที่อาศัยในภาคกลางและภาคเหนือที่ต้องเจอปัญหาเหล่านี้อยู่เป็นประจำ ซึ่งฝุ่น pm 2.5 นี้ส่งผลอันตรายและส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเราได้อย่างมากมายในระยะยาว ทั้งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง เช่น อาการภูมิแพ้ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือโรคปอดเรื้อรัง และที่สำคัญไม่แพ้ไปกว่ากันคือผลกระทบต่อสุขภาพทางผิวหนัง เพราะทั้งผิวหน้าและผิวกายของเรานั้นต้องสัมผัสกับฝุ่น pm 2.5 นี้โดยตรงอยู่ทั้งตลอดวัน จนอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ กิดผื่นคันตามตัว เป็นลมพิษ ทำร้ายผิวลึกในระดับเซลล์ผิว เป็นสาเหตุของปัญหาผิวแก่ก่อนวัย วันนี้ Sophist จึงมาแบ่งปันวิธีป้องกันและดูแลผิวของเรา ให้ปลอดภัยจากฝุ่น pm 2.5 มาฝากทุกท่านๆกัน

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับฝุ่น Pm 2.5 

      Pm 2.5 คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน (เทียบขนาดเท่ากับ 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมของเรา) นั่นเท่ากับว่า pm 2.5 นี้มีขนาดเล็กมากๆ สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบหายใจและระบบหมุนเวียนโลหิตได้ และแน่นอนว่าสามารถทำร้ายผิวของเราได้ลกึถึงระดับเซลล์ เพราะด้วยอนุภาคที่เล็กนี่เองจึงสามารถแทรกซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ เกิดการออกซิแดนท์ (Oxidant) จนทำให้ปริมาณสารอนุมูลอิสระในชั้นผิวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เซลล์ผิวเกิดการเสื่อสภาพ นำมาซึ่งปัญหาริ้วรอยแบบตื้นและแบบลึก ผิวหน้าหมองคล้ำไม่สดใส ปัญหาผิวแห้งเสีย เหี่ยวย่น  แถมยังก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน เป็นต้นเหตุของปัญหาสิวอุดตันหรือสิวอักเสบได้อีกด้วย 

ดูแลผิวอย่างไรให้ปลอดภัยจากฝุ่น pm 2.5

1. สุขภาพผิวที่แข็งแรงเริ่มต้นที่ภายใน การดูแลผิวที่เริ่มต้นมาจากสุขภาพร่างกายจากภายใน ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบหมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินอีและวิตามินซีสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผักและผลไม้ที่มีสีเขียวเข้มหรือสีแดง (บร็อคโคลี พริกหยวก มะเขือเทศ ฝรั่ง ส้ม หรือสตรอเบอร์รี่) ดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ชะล้างสารพิษและสิ่งตกค้างต่างๆออกจากร่างกาย และช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นมากขึ้น และที่สำคัญการนอนหลับพักผ่อนคือสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการซ่อมแซมเซลล์ผิวของร่างกาย ควรนอนให้ได้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง/วัน
   
   
   
   
2. เสริมเกราะป้องกันผิวด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่แดดมากเป็นพิเศษ เพราะความร้อนจะเป็นตัวกระตุ้นให้ฝุ่น pm 2.5 ลอยตัวฟุ้งในอากาศมากขึ้น เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ร่างกายของเราจะผลิตน้ำมันและเหงื่อออกมาเยอะเป็นพิเศษ ซึ่งฝุ่นที่ลอยในอากาศก็จะตรงเข้ามาจับกับผิวของเราได้มากยิ่งขึ้น การทาครีมกันแดดจะช่วยลดอัตราการผลิตน้ำมันส่วนเกินในชั้นผิวลง ลดโอกาสการอุดตันจากฝุ่น pm 2.5 ได้นั่นเอง
   
   
3. เน้นการแต่งหน้าแบบบางเบา หรือใช้เครื่องสำอางเนื้อแมทแทน เพราะการแต่งหน้าแน่นๆหรือการเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีเนื้อเข้มข้นในช่วงที่มีฝุ่นลอยฟุ้งในอากาศปริมาณมากนั้น จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ฝุ่นจับกับผิวหน้าของเราได้มากยิ่งขึ้น การแต่งหน้าแบบบางเบา เน้นการใช้แป้งผสมรองพื้นแทนไปก่อน จึงจะช่วยป้องกันการเกิดภาวะผิวอุดตันได้ดีกว่า
   
   
   
   
4. ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดและควรทำความสะอาดผิวทันที่มีโอกาส หลายๆครั้งที่เรากลับถึงบ้านแล้วหันไปทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน จนลืมทำความสะอาดผิวหน้า หลังจากที่ผิวของเราต้องเผชิญสารพัดฝุ่นควันมาอย่างหนักหน่วงตลอดวัน สิ่งที่เราควรทำเป็นสิ่งแรกเมื่อถึงบ้าน นั่นก็คือการทำความสะอาดผิวให้สะอาด โดยเฉพาะผิวหน้าที่มีเครื่องสำอาง โดยเราต้องให้ความสำคัญกับการเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง ฝุ่น ความมัน และสิ่งสกปรกออกจากผิวไปให้หมดจด ด้วยการใช้คลีนซิง (สูตรน้ำ น้ำมัน หรือเนื้อเจล) เช็ดทำความสะอาดผิวจนรู้สึกว่าผิวสะอาดดีแล้วจริงๆ จึงล้างหน้าต่อด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้า เราขอแนะนำให้เพิ่มการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าด้วยโทนเนอร์อีกครั้ง หลังการล้างหน้า เพื่อความผิวที่สะอาดหมดจดยิ่งขึ้น ในวันที่มีฝุ่น pm 2.5 เยอะเป็นพิเศษ
   
   
   
5. สร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงด้วยการบำรุงผิวหน้าด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์เป็นประจำ โดยเฉพาะในวันที่ฝุ่นเยอะเป็นพิเศษ เมื่อผิวชั้นนอกที่เปรียบเสมือนป้อมปราการที่คอยดูแลและปกป้องผิวชั้นใน มีความชุ่มชื้น เต่งตึง ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอกได้เป็นอย่างดี นอกไปจากนี้ผิวที่ชุ่มชื้น ยังช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินในชั้นผิว ลดการอุดตันของผิวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย