13 พฤติกรรมทำร้ายผิว ทราบแล้วเปลี่ยน!!

ผิวหน้าใครใครก็รัก ผิวหน้าใครใครก็หวง~ ไม่ว่าคุณจะมีสภาพผิวแบบใด เราทุกคนต่างรู้ดีว่าการบำรุงรักษาผิวหน้าของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญแค่ไหน สารพัดวิธี หลากหลายผลิตภัณฑ์ที่เราค้นคว้ามาใช้ก็เพื่อหวังจะให้ผิวของเรานั้นดีขึ้น แต่เคยทราบกันไหมคะว่ามีพฤติกรรมบางอย่างที่ทำร้ายผิวของเป็นอย่างมาก โดยที่เราอาจไม่เคยคาดคิดมาก่อน ส่วนจะมีพฤติกรรมใดบ้างนั้น มาลองเช็คดูกันเลยค่ะ

- ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยทิชชู่ทำความสะอาด (Face wipes) เป็นประจำ การเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าด้วยทิชชู่ทำความสะอาดบ่อยๆ จะทำให้ผิวของเราถูกขัดถู เสียดสีจากการเช็ด และนั่นเป็นการรบกวนชั้นผิว ทำให้เกิดอาการระคายเคืองนำมาสู่ปัญหาสิวผด สิวอักเสบ รวมไปจนถึงการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า แนะนำให้ทำความสะอาดผิวอย่างเหมาะสม ด้วยการใช้ Cleansing water ทุกครั้ง และใช้ทิชชู่ทำความสะอาดในเวลาที่จำเป็นเท่านั้น
- ออกกำลังกายทั้งๆที่มีเครื่องสำอางอยู่บนหน้า สาวๆหลายคนอาจให้เหตุผลว่า “ก็มันมีเวลาน้อยมากๆ จนไม่มีเวลาเช็ดเครื่องสำอางออกเลย!!” แต่ลองคิดดูสิคะว่าในขณะที่คุณกำลังออกกำลังกายแบบจัดเต็มอยู่นั้น เหล่ามาสคาร่า อายไลน์เนอร์ อายแชโดว์ที่จะไหลหลั่งเข้าตาตลอดทั้งคลาส ไหนจะรูขุมขนที่จะกว้างขึ้นเพื่อระบายเหงื่อ แต่กลับมีสารพัดเครื่องสำอางบนใบหน้าของเราไหลเข้าไปอุดตันอยู่ในรูขุมขนนั้นแทน เรื่องราวจะน่ากลัวยิ่งขึ้นถ้าเราล้างหน้าไม่สะอาด ปัญหาสิวผด สิวอุดตัน ลามไปจนถึงผิวอักเสบจะมาเยี่ยมเยือนใบหน้าของเราแบบไม่ต้องสงสัย
- ล้างหน้าด้วยน้ำที่มีอุณหูภูมิสูงหรือต่ำเกินไป การใช้น้ำร้อนหรือเย็นเกินไปล้างหน้า จะทำให้ผิวหน้าของคุณเกิดอาการระคายเคือง แห้ง หรือทำให้เส้นเลือดฝอยแตกได้ แถมการใช้น้ำที่ร้อนเกินไปยังจะทำลายสมดุลความชุ่มชื้นบนผิวหนัง และยังชะล้างไขมันจำเป็นที่อยู่บนผิวหน้าออกไปจนหมด ทำให้เกิดปัญหาผิวหน้าแห้งเสีย ลอกเป็นขุยตามมาได้

- ใ้ช้เวลาในการล้างหน้าน้อยเกินไป สาวๆควรให้เวลากับขั้นตอนการล้างหน้าให้สะอาดหมดจด ทั้งบริเวณไรผม หน้าผาก และลำคอ โดยใช้เวลาในการล้างหน้าประมาณ 1 นาที ที่สำคัญต้องล้างหน้าแบบเบามือ ไม่ลงน้ำหนักเยอะหรือถูหน้าแรงเกินไป
- ไม่เคยเช็คส่วนผสมของสกินแคร์ที่เลือกใช้ ก่อนการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆก็แล้วแต่ เราควรเช็คให้มั่นใจว่า ส่วนผสมในสกินแคร์เหล่านั้นเหมาะสมกับสภาพผิวของเราหรือไม่ และที่สำคัญจะต้องไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อผิวหน้า ได้แก่ แอลกออฮอล์ น้ำหอม สารแต่งสี และพาราเบน การใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆก็แล้วแต่โดยที่ไม่ทราบส่วนผสม อาจจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่กับผิวหน้าของเราได้

- สครับผิวหน้าบ่อยเกินไป หรือไม่สครับผิวเลย การสครับผิวบ่อยเกินไปจะยิ่งทำให้ผิวของเราแห้งเสีย เกิดอาการระคายเคืองและอักเสบตามมาได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีผิวแห้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ควรสครับผิวแค่ 1-2 ครั้งต่ออาทิตย์ก็เพียงพอ กลับกันหากสาวๆคนไหนที่ไม่สครับผิวหน้าเลย จะทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนอุดตันเพราะมีเซลล์ผิวเก่าอยู่บนผิวมากเกินไป แถมยังลดประสิทธิภาพการทำงานของเซรั่มหรือมอยเจอไรเซอร์ที่เราทาลงไปเพื่อหวังให้ผิวชุ่มชื้น แต่ดันมีเซลล์ผิวที่ตายแล้วมาขัดขวางการดูดซึมของชั้นผิว
- ไม่เช็ดทำความสะอาดหน้าจอมือถือคู่ใจของคุณ 1 สิ่งสำคัญที่อยู่ติดมือของเราตลอด ไม่ว่าจะยามที่เราเข้าห้องน้ำ ทานอาหาร ไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน ลองคิดดูสิคะว่ามือถือของเราต้องผ่านอะไรมาบ้างในแต่ละวัน แล้วมันจะสร้างปัญหาให้ผิวหน้าของเราแค่ไหน เมื่อเรายกโทรศัพท์มาแนบหูเวลาคุยสาย ถ้าเราไม่เช็ดทำความสะอาดหน้าจอมือถือของเราเลย!!

- ละเลยการทำความสะอาดแปรงแต่งหน้า/ฟองน้ำ สาวๆท่านไหนที่แต่งหน้าต่างต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้มาสัมผัสผิวหน้าของตัวเองอยู่ทุกวัน การปล่อยให้อุปกรณ์แต่งหน้าสกปรก จนเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและเซลล์ผิวเก่าๆของเรานั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นสาวๆควรทำความสะอาดแปรงแต่งหน้า/ฟองน้ำ ทุกๆสัปดาห์ (หรืออาจบ่อยกว่านั้นแล้วแต่จะสะดวก) โดยทำความสะอาดด้วยแชมพูสำหรับเด็ก หรือน้ำยาล้างแปรงแต่งหน้าโดยเฉพาะ
- ไม่เปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าห่ม แหล่งสะสมเชื้อโรคอีก 1 ที่ ที่เรามองข้ามกันบ่อยครั้ง ทราบหรือไม่คะว่าปลอกหมอนของเราเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคจำนวนมาก ตั้งแต่เศษเซลล์ผิวที่ตายแล้ว น้ำมันจากผิวหน้า สารพัดครีมที่เราใช้ทาผิวก่อนล้มตัวลงนอน ยิ่งสาวๆคนไหนที่หลับไปทั้งๆที่หน้ายังแน่น ปลอกหมอนของเราก็จะรับสารพัดสิ่งเหล่านี้เอาไว้ตลอด โดยที่ผิวหน้าของเราสัมผัสอยู่บนหมอนใบเก่าทุกคืน คืนละ 6 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย!! ทางที่ดีควรเปลี่ยนปลอกหมอน ผ้าห่มและผ้าปูที่นอน ทุกๆสัปดาห์ เพื่อสุขอนามัยและสุขภาพของผิวหน้าที่ดี

- จับ แกะ เกา เผลอเอามือเท้าคางตลอด อย่างที่เราทราบกันดีค่ะว่า “มือ” หรือ “นิ้วมือ” ของเราเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นดี ในวันๆนึงมือของเราสัมผัสสิ่งของมากมาย หลากหลายอย่าง ตั้งแต่ออกจากบ้าน อยู่บนท้องถนน และจนถึงที่ทำงาน การนำมือที่ผ่านมรสุมมาทั้งวัน เผลอแคะ แกะ เกา หรือเท้าคางตอนทำงาน ก็เท่ากับการแพร่เชื้อโรคจากมือไปสู่ผิวหน้า แล้วปัญหาก็จะตามมาให้เราแก้กันอีกเป็นกระบุง เพราะฉะนั้นเราจึงควรทำความสะอาดมือของเราอยู่บ่อยๆ และพยายามไม่ใช้มือสัมผัสบริเวณผิวหน้าของตัวเอง
- ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด หรือใช้ในปริมาณที่ไม่เพียงพอ สาเหตุอันดับต้นๆของผิวที่แห้งเสีย มีริ้วรอยก่อนวัยอันควรมาจากแสงแดด และรังสี UV ต่างๆ หลายๆคนอาจคิดว่าการทาครีมกันแดดนั้นจำเป็นต้องทาแค่ตอนที่ต้องออกไปอยู่กลางแจ้งเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้วนั้นผิวของเราถูกทำร้ายโดยแสงแดดหรือรังสีต่างๆอยู่ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เราขับรถ นั่งทำงานอยู่ข้างๆหน้าต่างหรือที่นั่งหน้าบ้าน หรือในวันฟ้าหม่นที่เราออกไปเดินเล่นกลางแจ้งก็ตาม มองไม่เห็น ใช่ว่าจะไ่ม่มีอยู่จริงนะคะ!! สาวๆคนไหนไม่อยากถูกทำร้ายโดยแสงแดด หรือมีปัญหาริ้วรอยก่อนวัยอันควร ควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดตลอด 365 วันในปริมาณที่เพียงพอ (ขนาดประมาณเหรียญสิบ) ถึงแม้นฝนจะตก แดดจะออก อยู่ในบ้านหรือนอกบ้านก็ตาม
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าทุกตัวที่มีในปริมาณจัดเต็ม เรียกได้ว่าประโคมทุกตัวที่มีลงไป หวังว่าจะให้ทุกตัวช่วยกันทำงาน!! แต่สาวๆทราบไหมคะว่า การที่เราใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าไม่ว่าจะเป็น เซรั่ม ครีม น้ำตบต่างๆ หลายๆตัวพร้อมกันในครั้งเดียว ยิ่งทำให้ประสิทธิภาพในการดูดซึมลงสู่ชั้นผิวนั้นแย่ลง!! ท่องจำเอาไว้ว่า “น้อยแต่ดูดซึมได้มาก” ย่อมดีกว่าค่ะ แนะนำให้สาวๆหาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวหน้าแบบ all in one จบครบใน 1 หรือ 2 ชิ้น ก็เพียงพอแล้วละค่ะ

- ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่หมดอายุ มีหลายครั้งที่เราเผลอใช้ (หรือบางคนอาจจะตั้งใจใช้เพราะว่าเสียดาย) ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่หมดอายุไปแล้ว ซึ่งนั่นไม่ดีต่อผิวหน้าของเราเลยนะคะ แทนที่จะได้รับการบำรุงอย่างเหมาะสม กลายเป็นการเอาบ่อเพาะแบคทีเรียขนาดย่อมๆมาทาผิวแทน!!!! เป็นสาเหตุให้ผิวมีปัญหาทั้งผื่นแดง คัน เป็นสิว และทำให้ผิวหน้าของเราติดเชื้อได้ Sophist ขอแนะนำว่าก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ทุกครั้ง เราควรเช็ควัน/เดือน/ปี ที่ผลิตและอายุการใช้งานหลังเปิดใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว เพื่อความสะดวกอาจเขียน วัน/เดือน/ปี ที่ผลิตภัณฑ์จะหมดอายุลงบนโพสอิทแล้วแปะเอาไว้บนบรรจุภัณฑ์อีกที เพื่อให้เราไม่เผลอใช้ในอนาคตค่ะ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว มีกี่ข้อที่เราเผลอทำร้ายผิวแบบไม่ทันตั้งตัว เพื่อผิวที่สวยใส ไร้ปัญหาคอยกวนใจ ลองเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันตั้งแต่วันนี้กันเลยค่ะ
Sources :
- https://www.purefiji.com/blog/common-skincare-mistakes/
- https://www.bustle.com/articles/24800-20-skincare-mistakes-that-are-damaging-your-face
- https://www.forbes.com/sites/celiashatzman/2014/08/21/8-common-skincare-mistakes/#74ba15446f2d