3052 จำนวนผู้เข้าชม |
ริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น ไม่ว่าจะเป็นรอยตีนกา ริ้วรอยรอบดวงตา รอยย่นที่หน้าผาก หรือรอยย่นระหว่างคิ้ว ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยส่วนไหนบนใบหน้าก็ล้วนแต่จะลดความมั่นใจในผิวของเราไปทั้งนั้น Sophist ชวนมาสาวๆมาดูกันแบบชัดๆถึงต้นเหตุปัญหาริ้วรอย พร้อมกับ 5 วิธีลดเลือนริ้วรอยที่น่าสนใจมาฝากกัน
“ริ้วรอย” เกิดจากเซลล์ผิวของเราเสื่อมสภาพลง ส่งผลให้สารสำคัญต่างๆ ที่ทำหน้าที่คล้ายสปริง คอยช่วยให้ผิวของเราเต่งตึงและคืนตัวได้ลดน้อยลง ประกอบด้วย คอลลาเจน อิลาสติน กรดไฮยาลูรอน และไฟโบรบลาสต์ เมื่อสารสำคัญกลุ่มนี้น้อยลง ผิวของเราก็จะขาดความกระชับ เต่งตึง ริ้วรอย ตีนกา รอยย่นที่หน้าผาก จึงเริ่มถามหา ในระยะแรกนั้นจะเป็น ริ้วรอยแบบตื้น (Fine Line) ที่สามารถจัดการให้ดูดีขึ้นได้ แต่เมื่อนานวันเข้าริ้วรอยจะเริ่มลึกและเห็นชัดมากขึ้น จนกลายเป็น ริ้วรอยถาวร ที่จัดการได้ยาก
หลักๆแล้วเราสามารถแบ่งปัจจัยทำร้ายผิวออกเป็น 2 ปัจจัย ซึ่งได้แก่ ปัจจัยภายใน คือการเสื่อมสภาพเกิดขึ้นภายในร่างกายของเรา (พันธุกรรม อายุ ความเครียดและกังวล การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน) และปัจจัยเร่งจากภายนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (มลภาวะ ฝุ่น/ควัน สารเคมี ฯลฯ)
เมื่ออายุเพิ่มากขึ้น คอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยให้ผิวของเรายืดหยุ่น คืนตัว จะถูกผลิตออกมาได้น้อยลง ผิวของเราจึงเริ่มขาดความแข็งแรง และคืนตัวได้น้อยลง
ทุกๆครั้งที่เราเกิดความเครียด ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความเครียดชื่อ “คอร์ติซอล (Cortisol)” ออกมา หากร่างกายของเรามีฮอร์โมนคอร์ติซอลมากเกินไปก็จะไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวของเรา จึงทำให้ผิวของเราขาดความยืดหยุ่น ไม่กระชับ
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ฮอร์โมนเพศหญิง หรือ “ฮอร์โมนเอสโทรเจน (Estrogen)” จะค่อยๆลดน้อยลง ซึ่งส่งผลต่อปริมาณการสังเคราะห์คอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวบางลง การอุ้มน้ำของผิวลดลง ส่งผลให้ผิวเริ่มแห้งเสีย หยาบกร้าน และมีริ้วรอยเยอะขึ้นได้
มีที่มามากสุดจากปัจจัยภายนอก ได้แก่ แสงแดด (UVA/UVB) มลภาวะ ฝุ่น ควัน สารพิษที่ลอยในอากาศ นอกไปจากนี้ร่างกายยังสร้างสารอนมูลอิสระขึ้นตลอดเวลา ทั้งจากการหายใจ กระบวนการย่อยอาหาร การทานยาบางประเภท ตลอดไปจนถึงความเครียดสะสม นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
เกิดจากการความเสื่อมสภาพของคอลลาเจน อีลาสติน กรดไฮยาลูรอนิก และไฟโบรบลาสต์ ที่อยู่ในชั้นผิวของเรา เพราะถูกทำร้ายจากปัจจัยต่างๆ (ทั้งภายในและภายนอก) เมื่อโครงสร้างเส้นใยของผิวถูกทำลายลง ผิวของเราจะเกิดรอยยับ เหี่ยวย่น และคืนรูปได้น้อยหรือไม่คืนรูปเลยในที่สุด ทำให้เห็นริ้วรอย และผิวที่เหี่ยวย่นได้ตลอดเวลา
การมาส์กหน้าด้วยวัตถุดิบรอบตัว เน้นความเป็นธรรมชาติ ที่หาได้แสนง่ายในบ้านเรา จะช่วยลดริ้วรอยร่องลึกของเราได้เป็นอย่างดี ไม่แพ้สกินแคร์ราคาแพงเลยค่ะ โดยสูตรที่ Sophist เลือกมานำเสนอนี้ สามารถช่วยลดรอยตีนกาได้เป็นอย่างดี และสามารถใช้มาส์กได้ทั่วใบหน้า เพื่อลดเลือนริ้วรอยในส่วนอื่นๆได้เช่นกันค่ะ (รอยย่นหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว ร่องแก้ม ฯลฯ)
มาส์กแครอท เพราะในแครอทนั้นอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน (Beta-caroteen) และสารเพกติน ซึ่งจะช่วยให้ผิวของเราดูอ่อนเยาว์ เต่งตึง และดูอิ่มน้ำขึ้นได้ โดยให้สาวๆนำแครอทที่ปอกเปลือกแล้ว ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย หั่นเป็นชิ้นเล็กๆและคั่นน้ำออกมา ทาให้ทั่วผิวหน้า ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
มาส์กใบตำลึง ใบตำลึงที่เรานำไปทำแกงจืดกันนั่นเองค่ะ เพราะในใบตำลึงอุดมไปด้วยวิตามินเอ ช่วยลดเลือนรอยตีนกา ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มฟูขึ้นได้อย่างเหลือเชื่อ ให้สาวๆเลือกใช้ใบตำลึงอ่อนๆมาปั่นกับน้ำเปล่า อาจผสมนมจืดหรือน้ำผึ้งลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น จากนั้นกรองกากออก แล้วนำน้ำตำลึงที่ได้มาทาให้ทั่วหน้า ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
มาส์กถุงชา ถุงชาที่เหลือหลังจากการดื่มชาแล้วนั้นยังมีประโยชน์อีกมากมายเลยค่ะ เพราะในชานั้นอัดแน่นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินอี และวิตามินซี ที่จะช่วยลดรอยคล้ำ และปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้นได้ โดยสาวๆสามารถใช้มาส์กได้ทั้งแบบถุงร้อน หรือนำถุงชาไปแช่ให้เย็น แล้วนำมาประคบที่ดวงตา ทิ้งไว้ 10-15 นาที ก็จะช่วยสร้างความผ่อนคลายให้ผิวรอบดวงตาได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ
มาส์กไข่ขาว ในไข่ขาวอุดมไปด้วยวิตามินเอ และสุดยอดสารบำรุงผิวซ่อนอยู่มากมาย เพียงสาวๆนำเอาเฉพาะไข่ขาว มาตีจนขึ้นฟู หลังจากนั้นใช้นิ้วหรือแปรงขนาดเล็ก ทาไข่ขาวให้ทั่วบริเวณรอบดวงตาหรือทั่วทั้งใบหน้า จากนั้นทิ้งไว้จนไข่ขาวเริ่มแห้ง จึงใช้สำลีหรือผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดออกเบาๆ และล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าจนสะอาดดี เราจะรู้สึกได้เลยว่าผิวจะตึงและกระชับขึ้น
ผิวของเราเรียงลำดับกันเป็นชั้นๆ ได้แก่ ชั้นกำพร้า ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน โดยทุกๆ 28-30 วัน (ประมาณ 1 เดือน) เซลล์ผิวของเราจะค่อยๆดันเซลล์ผิวเก่าออกมายังชั้นนอกสุด หรือที่เราเรียกว่า “ขี้ไคล” แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น กระบวนการผลัดเซลล์ผิวจะช้าลง แถมยังผลัดได้ไม่ดีเท่าที่ควร ชั้นขี้ไคลบนผิวหน้าของสาวๆจึงอาจจับตัวกันเป็นก้อนหนา ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สว่างใส แถมยังทำให้ริ้วรอยดูชัดเจนและลึกมากยิ่งขึ้น การสครับผิว 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ จะช่วยลดจำนวนของขี้ไคลบนผิวหน้าของเราออกไปได้ แถมยังช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวไปในตัว ผิวของเรจึงจะดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใสขึ้น ริ้วรอยแลดูจาง และตื้นขึ้น เมื่อเราสครับผิวหน้าเป็นประจำ
มีอาหารหลากหลายชนิด ที่มีส่วนกระตุ้นให้ร่างกายของเราสังเคราะห์คอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคอลลาเจนเป็นสารสำคัญที่ช่วยให้ผิวของเรากระชับ เต่งตึง และเปล่งปลั่งขึ้นได้เช่นกัน โดยอาหารที่เพิ่มคอลลาเจนนั้นก็หาทานได้ง่ายมาก เช่น น้ำซุปกระดูก (หมู วัว ไก่ ฯลฯ) กระดูกอ่อน หรือจะเป็นผัก-ผลไม้สีเขียวและสีแดง เนื้อปลาแซลมอนหรือปลาทะเลน้ำลึกทุกชนิด ถั่วเปลือกแข็ง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เห็ด กระเทียม ฯลฯ และที่สำคัญสาวๆควรลดการบริโภคอาหารที่เข้าไปทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวด้วยเช่นกัน ได้แก่ เครื่องดื่มแอกอฮอล์ น้ำอัดลม ขนม/เบเกอรี่ อาหารที่มีรสชาติหวานจัด หรืออาหารที่ทอดแบบใช้น้ำมันท่วมๆ (Deep Fry)
เพียงเท่านี้สาวๆก็จะสามารถจัดการปัญหาริ้วรอยกวนใจบนผิวหน้าได้ดียิ่งขึ้น ผิวหน้าของเราก็จะแลดูอ่อนกว่าวัย สวยใส และกระชับขึ้นได้อย่างแน่นอนค่ะ