2593 จำนวนผู้เข้าชม |
“ผิวแห้งมาก” “ผิวแห้งเสีย” ปัญหาผิวสุดแสนกวนใจสำหรับใครหลายๆคน เมื่อผิวแห้งกร้าน เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ของเราก็จะเสียสมดุล ทำให้เกิดสารพัดปัญหาผิวตามมาอีกมากมาย แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะผิวแห้งเสียสามารถดูแลได้ด้วยการบำรุงผิวอย่างถูกวิธี วันนี้ Sophist มี 7 ขั้นตอนพื้นฐาน ที่จะช่วยบำรุงและรักษาปัญหาผิวแห้งเสียให้ดีขึ้นได้มาฝากกัน
ผิวแห้งเสีย (Dry Skin หรือ Xerosis) เป็นปัญหาที่เกิดจากการสูญเสียความชุ่มชื้นของผิวให้กับชั้นบรรยากาศภายนอกมากเกินกว่าปกติ เพราะ “เกราะป้องกันผิว (Skin Bariier) เกิดการเสื่อมสภาพเพราะถูกทำร้ายจากปัจจัยต่างๆ ทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ได้แก่ อายุที่เพิ่มมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย การถูกทำร้ายจากมลภาวะภายนอก การนอนหลับพักผ่อน เป็นต้น เมื่อผิวสูญเสียน้ำจำนวนมาก จึงทำให้เกิดปัญหา “ผิวแห้งเสีย” ซึ่งปัญหาผิวแห้งเสียเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกช่วงอายุ ทุกสภาพผิว (ผิวมัน ผิวผสม) โดยระดับของความแห้งเสียจะแตกต่างกันออกไป
ปัจจัยที่ทำให้ผิวแห้งเสียนั้นมีมากมาย โดยระดับความรุนแรงของปัญหาผิวแห้งเสีย หยาบกร้านนั้นมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน แต่ขั้นตอนดูแลและบำรุงผิวขั้นพื้นฐานสำหรับผิวแห้งเสีย สามารถแบ่งออกเป็น 7 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
การทำความสะอาดผิวให้สะอาดหมดจดเป็นสั่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นช่วงหลังตื่นนอน หรือการทำความสะอาดผิวก่อนเข้านอน เพราะบนผิวหน้าของเราจะมีคราบน้ำมัน และสิ่งสกปรกต่างๆอยู่ หากสาวๆแต่งหน้า ควรใช้น้ำยาลบเครื่องสำอาง (Cleansing) ลบเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกออกจากผิวให้หมดจด เราแนะนำให้ผู้ที่มีผิวแห้งเลือกใช้ cleansing ประเภทเนื้อบาล์ม (Balm) เนื้อเจล หรือเนื้อน้ำมัน (Oil) สำหรับล้างเครื่องสำอาง ซึ่งอ่อนโยนและช่วยลดการเสียดสีบนผิวได้ดีกว่า เพราะไม่ต้องใช้สำลีเช็ด และอีกสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง คือ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ใช้ควรอ่อนโยน ปราศจากส่วนผสมที่สร้างอาการระคายเคืองกับผิวจำพวกสารลดแรงตึงผิว (SLS)
- ในช่วงที่ใช้ยารักษาเฉพาะจุด ให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีค่าเป็นกรดสูง เช่น วิตามินซี AHA / BHA / PHA หรือกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoid) เพราะผิวของเราอาจแห้งเสียมากกว่าเดิม
หรือที่เราคุ้นในชื่อ “น้ำตบ” นั่นเองค่ะ ด้วยเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างเหลว (เมื่อเทียบกับเนือ้อื่นๆ) เราสามารถลงทรีทเมนท์หรือเอสเซนท์เป็นขั้นตอนต้นๆ เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวและปรับผิวให้พร้อมกับการบำรุงสกินแคร์ในขั้นตอนต่อไป สาวๆที่มีผิวแห้งควรเลือกใช้น้ำตบ ในกลุ่มที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูรอน คอลลาเจน หรือเซราไมด์
ด้วยเนื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นขึ้นมาอีกระดับ เราสามารถลงเซรั่มต่อจากทรีทเมนท์/เอสเซนท์ โดยเซรั่มจัดเป็นสกินแคร์ที่มีความเข้มข้นของสารบำรุงค่อนข้างสูงเลยทีเดียว สาวๆสามารถเลือกใช้เซรั่มที่มีส่วนช่วยจัดการปัญหาผิวแห้งเสียและปรับผิวให้แข็งแรงขึ้น ด้วยการเลือกใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมที่น่าสนใจ ดังนี้
สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) เช่น Vitamin A, B3, C และ E สารสกัดจากชาเขียว เมล็ดองุ่น หรือสารสกัดจากทับทิม เป็นต้น
เรตินอยด์ (Retinoid) ที่จะช่วยเร่งกระบวนการสร้างเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย เช่น Retinol, Retinaldehyde, Retinoic Acid หรือ Adapalene หรืออาจเลือกใช้บากูชิล (Bakuchiol) แทนในกรณีที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
ขั้นตอนสำคัญในการบำรุงผิวของผิวทุกประเภท (ทั้งผิวมัน ผิวแห้ง และผิวผสม) เพราะผิวนั้นถูกทำร้ายอยู่ตลอดเวลาจากปัจจัยภายในและภายนอก การใช้มอยส์เจอไรเซอร์จึงเหมือนการเสริมสร้างเกราะปราการผิวที่ดี (Skin Barrier) เพราะผิวที่มีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ คือผิวที่แข็งแรง!!! โดยเฉพาะสาวๆที่ผิวแห้งเสียไม่ควรข้ามขั้นตอนนี้ไปเด็ดขาด และควรบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเข้มข้น ได้แก่ เนื้อครีม (Cream) เนื้อโลชั่น (Lotion) หรือเนื้อน้ำมัน (Oil) เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและบำรุงผิวหน้าได้อย่างเต็มที่
Sophist Age-Delay Collection มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวแห้งเสีย
เราขอแนะนำเวชสำอางบำรุงผิวหน้า ที่พัฒนาสูตรมาเพื่อผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งเสีย แพ้ง่ายและเข้าบำรุงเรื่องริ้วรอยโดยเฉพาะ
ด้วยเนื้อครีมสูตรเข้มข้น ที่เราพัฒนาสูตรมาให้ตรงกับความต้องการของผู้ที่มีผิวแห้งเสีย เนื้อครีมเข้มข้น ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างยาวนาน
ผสานสารสกัดจากธรรมชาติ ที่เราคัดสรรมาแล้วอย่างดี ทั้งสารสกัดจากใบบัวบก ผักบุ้งทะเล และว่านหางจระเข้ ที่จะตรงเข้าช่วยลดปัญหาผิวแห้งเสีย เติมความชุ่มชื้น ลดอาการผิวแห้ง คัน และอักเสบได้อย่างตรงจุด
ผนวกเทคโนโลยีอนุภาคขนาดนาโนไขมัน (SLNs) นวัตกรรมแห่งการบำรุงผิว ที่จะช่วยผลักสารสำคัญลงสู่ชั้นเซลล์ผิวได้ดีกว่า ขยายระยะเวลาการออกฤทธิ์ของทุกๆสารสกัด มั่นใจได้ว่าผิวของคุณจะได้รับการบำรุงได้ยาวนานยิ่งกว่า หลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์
เสริมพลังแห่งการชะลอวัยให้กับผิว ด้วยสุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระจากผลปาล์มแดงธรรมชาติ “Vitamin E Tocotrienols” ออกฤทธิ์ต้านสารอนุมูลอิสระเข้มข้น 60 เท่า ชะลอการเกิดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอยร่องลึก ได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดนี้ใน Sophist Age-Delay Collection Day&Night Cream ที่มั่นใจได้แน่นอนว่าปลอดภัย ไร้สารอันตราย ผ่านการทดสอบทางผิวหนัง
สาวๆอย่าลืมบำรุงผิวบริเวณรอบดวงตากันด้วยนะคะ เพราะผู้ที่มีผิวแห้งเสีย ย่อมเจอปัญหาผิวแห้งทั่วทั้งผิวหน้า หลายๆคนอาจให้ความสำคัญกับการบำรุงผิวหน้า จนลืมบำรุงผิวรอบดวงตาไป หากปล่อยให้ผิวบริเวณนี้แห้งเสียมากเกินไป ก็จะทำให้มองเห็นรอยย่นที่หางคิ้ว หรือรอยตีนกาชัดขึ้นได้ เราแนะนำให้ลงครีมบำรุงใต้ตาเป็นตัวหลังสุด (ทั้งตอนเช้าและก่อนเข้านอน) ข้อสำคัญคือลงให้ห่างจากขนตาประมาณ 1-2 เซนติเมตร โดยใช้ปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียว ค่อยๆกดให้เนื้อครีมซึมลงผิวด้วยนิ้วนาง ย้ำว่าออกแรงกดให้เบาที่สุดค่ะ เพราะผิวบริเวณใต้ตาจะบอบบางเป็นพิเศษ หากทาครีมรอบดวงตาแล้วยังมีครีมเหลืออยู่ สาวๆสามารถนำครีมมาทารอบๆริมฝีปากต่อได้
ขั้นตอนสำคัญในการปกป้องผิว (Skin Protect) เพื่อไม่ให้ผิวของเราถูกทำร้ายทำร้ายจากรังสีในแสงแดด และสารอนุมูลอิสระ เราควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดทุกวัน ในปริมาณที่เพียงพอ คือ ประมาณ 2 ข้อนิ้วชี้ หรือเหรียญ 10 บาท 2 เหรียญ สาวๆที่มีผิวแห้งเสียและแพ้ง่าย อาจเลือกใช้เป็นผลิตภัณฑ์กันแดดแบบฟิสิคอล (Physical Sunscreen) ที่จะทำหน้าที่สะท้อนแสงออกจากผิว โดยไม่มีสารเคมีกันแดดซึมเข้าสู่ผิวเหมือนผลิตภัณฑ์กันแดดแบบเคมิคอล (Chemical Sunscreen)