ครีมกันแดดทาหน้า ตัวช่วยปกป้องผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน แพ้ง่าย เลือกครีมกันแดดทาหน้าแบบไหนจึงจะได้ผลดี

ครีมกันแดดทาหน้านับเป็นหนึ่งไอเท็มสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้ เพราะแสงแดด มลพิษ และฝุ่นควันที่คอยจะทำร้ายผิวหน้าของเราให้เสื่อมสภาพ หมองคล้ำ และดูแก่กว่าวัยนั้นมีรายล้อมอยู่รอบตัว จะหลีกเลี่ยงอย่างไรก็ไม่พ้น การเสริมเกราะป้องกันให้ผิวหน้าด้วยการเลือกใช้ครีมกันแดดทาหน้า ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพในการดูแลผิวได้อย่างเต็มขั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ครีมกันแดดทาหน้า เลือกแบบไหน? ครีมกันแดดทาหน้าสำหรับผิวแพ้ง่าย ครีมกันแดดทาหน้าที่ดีที่สุด เป็นอย่างไร บทความนี้ Sophist มีคำตอบมาไขทุกข้อข้องใจเกี่ยวกับครีมกันแดดทาหน้า 

ครีมกันแดดทาหน้า สำคัญอย่างไร 

หลาย ๆ คนที่ใช้ครีมกันแดดกันเป็นปรจำอยู่แล้ว อาจจะพอเข้าใจแะนึกภาพออกว่าครีมกันแดดทาหน้า  ช่วยปกป้องผิวหน้าเราได้จากอะไรบ้าง แต่ก็ยังมีสาว ๆ หลายคนที่ไม่ชอบใช้ครีมกันแดดทาหน้า เพราะไม่ชอบเนื้อสัมผัสที่เหนอะหนะ จนทำให้เหนียวหน้าไปตลอดวัน แต่สาว ๆ ทราบไหมคะว่าครีมกันแดดทาหน้า  เป็นไอเท็มที่สำคัญต่อผิวของเราเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

1. ครีมกันแดดทาหน้าช่วยปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ เพราะครีมกันแดดจะทำหน้าที่ในการสะท้อน หรือดูดซับรังสีความร้อนแล้วกำจัดออกจากชั้นผิว ทำให้ผิวไม่ได้รับการถูกทำร้ายจากรังสี UVA/UVB ในแสงแดดแบบตรง ๆ ผิวของเราจึงไม่หมองคล้ำดำเสีย ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ ลองก้มดูหลังเท้าของเรา จะเห็นได้เลยว่าผิวของเราจะไม่สม่ำเสมอ ส่วนที่ดำคล้ำคือส่วนที่โผล่ออกมาจากรองเท้า
2. ครีมกันแดดทาหน้าช่วยยับยั้งการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ข้อนี้นับเป็นปัญหาผิวหนักใจที่หลาย ๆ คนต้องเผชิญ หลาย ๆ คนมีฝ้า กระ เป็นปื้นหน้า โดยเฉพาะที่บริเวณแก้ม และโหนกแก้ม ที่โดนแสงแดดเยอะที่สุด เมื่อไหร่ก็ตามที่ผิวของเราสัมผัสโดนแดดมากเกินไป เซลล์ผิวจะพยายามปกป้องผิวของเราจากการแสบไหม้ ด้วยการผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ออกมาเพื่อเป็นเกราะป้องกันผิว หากพูดให้เข้าใจโดยง่ายก็คล้ายกับการกางร่มเพื่อบังแดด แต่ร่มที่ว่ามาในรูปฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่นานวันจะยิ่งสังเกตเห็นได้ชัดเจน จนทำให้หมดความมั่นใจ ครีมกันแดดทาหน้าจะทำหน้าที่ปกป้องผิวของเรา โดยที่เซลล์ผิวไม่ต้องผลิตเม็ดสีให้ยุ่งยาก จึงช่วยลดโอกาสการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้อย่างเห็นผล
   
3. ช่วยปกป้องผิวไม่ให้แก่ไว ปัจจุบันมีรายงานผลการวิจัยที่ชี้ชัดว่าแสงแดดทำให้ผิวของเราแก่เร็วขึ้น มีริ้วรอย ผิวเหี่ยน หย่อนคล้อยและขาดความกระชับตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้ผิวดูแก่กว่าวัย เพราะรังสี UVA ในแสงแดดสามารถทำร้ายผิวได้จนถึงระดับเซลล์ ส่งผลให้คอลลาเจน อีลาสติน และสารจำเป็นอื่น ๆ ใต้ชั้นผิวที่ทำให้ผิวอิ่มฟู เต่งตึง ดูสุขภาพดี ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับสร้างทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระ (Free-radicals) ปริมาณมากในชั้นผิว ส่งผลให้ผิวของเราเหี่ยวลงอย่างทันควัน คล้ายลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมออกวันละเล็กวันละน้อย พอท้ายที่สุดก็จะหย่อนคล้อยจนยากที่จะแก้ไข
   
4. ช่วยปกป้องผิวจากอาการแสบแดง ผิวไหม้แดด ใครที่เคยเผชิญอาการเหล่านี้หลังการออกไปเผชิญแสงแดดจัด ๆ มาอาจทราบดีว่าเป็นอาการที่สร้างความปวดแสบปวดร้อนให้กับผิวได้เป็นอย่างมาก เพราะชั้นผิวถูกทำร้ายจากรังสี UVB จนทำให้ชั้นผิวเกิดอาการระคายเคือง แสบแดง ผิวไหม้แดด และทำให้ชั้นผิวลอกในที่สุด การทาครีมกันแดดทาหน้า  ครีมกันแดดตัว ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVB จึงช่วยปกป้องผิวไม่ให้เกิดอาการแสบแดง ไหม้แดด
   
5. ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง เมื่อผิวถูกทำร้ายจากแสงแดดนานวันเข้า เริ่มจากไม่กี่วัน เป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์ไปเป็นปี จากไม่กี่ไปไปเป็น 20-30 ปี เมื่อชั้นผิวถูกทำร้ายจากแสงแดดเป็นระยะเวลายาวนาน เกิดการสะสมของสารอนุมูลอิสระจำนวนมากที่ลอยละล่องอยู่ทั่วชั้นผิว และคอยทำร้ายเซลล์ผิวอยู่ตลอดเวลา นั่นเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ในที่สุด การใช้ครีมกันแดดทาหน้าที่มีประสิทธิภาพจึงเปรียบเสมือนการตัดตอนปัญหาเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้นตั้งแต่เนิ่น ๆ 

ครีมกันแดดทาหน้า เลือกใช้แบบไหนดี?

คำถามสำคัญถัดมาคือ แล้วเราควรเลือกใช้ครีมกันแดดทาหน้า แบบไหนดี? จึงจะช่วยปกป้องผิวของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ไม่ทำร้ายผิวให้มีอาการที่รุนแรงไปยิ่งกว่าเดิม วิธีเลือกครีมกันแดดสำหรับใช้กับใบหน้า ควรพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยร่วมกัน ดังนี้

• เลือกครีมกันแดดทาหน้า ที่มีค่า SPF และค่า PA เหมาะสมกับระดับกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่า SPF และ PA ที่อยู่ในครีมกันแดดคืออะไร ก็เลยไม่เข้าใจว่าควรเลือกซื้อครีมกันแดดทาหน้าแบบไหนดี 

  • ค่า SPF คือ ค่าที่บอกระดับความสามารถในการปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำร้ายจากรังสี UVB ที่ทำให้ผิวแสบแดง ผิวไหม้แดด ยิ่งค่า SPF สูงก็จะยิ่งปกป้องผิวของเราไม่ได้ไหม้แดด เบิร์นแดด

  • ค่า PA ในครีมกันแดด คือ ตัวเลขที่บ่งบอกประสิทธิภาพในการป้องกันผิวจาก UVA ซึ่งเป็นรังสีที่สร้างความเสียลงลึกถึงระดับเซลล์ ทำลายคอลลาเจน อีลาสติน ส่งผลให้ความชุ่มชื้นในผิวน้อยลง เกิดริ้วรอยร่องลึกที่สังเกตได้อย่างชัดเจน คลอดไปจนถึงปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ และผิวหมองคล้ำ 

  • ควรเลือกซื้อครีมกันแดดทาหน้า  SPF/PA เท่าไหร่ดี? คำแนะนำคือ เลือกใช้ SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป และค่า PA+++ เพื่อสามารถปกป้องแสงแดดในชีวิตประจำวัน และทาครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสม หมั่นเติมครีมกันแดดระหว่างวันเมื่อต้องออกแดดบ่อย ซึ่งค่า SPF/PA นั้นไม่ตายตัว หากต้องออกแดดแรง เช่น เดินเขา เล่นน้ำทะเล ไปน้ำตก ก็สามารถเลือกใช้ค่าตัวเลขที่สูงขึ้นได้

• ควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถปกป้องผิวจากทั้ง UVA/UVB โดยสามารถดูข้อมูลที่ระบุข้างผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจซื้อ ทั้งนี้ครีมกันแดดประเภทฟิสิคอล (Physical Sunscreen) สามารถปกป้องรังสีได้อย่างครบถ้วน แต่ทั้งนี้ในปัจจุบันกันแดดชนิดอื่น ๆ  เช่น ครีมกันแดดแบบเคมิคอล (Chemical Sunscreen) ครีมกันแดดแบบผสม (Hybrid Sunscreen) ก็ถูกพัฒนาสูตรให้ปกป้องผิวจากรังสี UV ในแสงแดดได้อย่างครอบคลุมเช่นเดียวกัน 
  

• เลือกครีมกันแดดทาหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิว ปัจจุบันมีครีมกันแดดให้เลือกใช้หลากหลายเนื้อ ทั้งเนื้อครีม เนื้อน้ำ เนื้อเจล เนื้อน้ำนม รวมไปจนถึงสเปรย์กันแดด หากคุณเป็นคนผิวมันก็ควรเลือกใช้ครีมกัแดดที่มีเนื้อบางเบา เช่น ครีมกันแดดเนื้อน้ำนม เนื้อน้ำ และครีมกันแดดเนื้อเจล หรือเป็นคนที่ผิวแห้ง ก็สามารถเลือกใช้ครีมกันแดดเนื้อครีม เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นพร้อมกับการปกป้องผิวจากแสงแดดไปด้วยในตัวเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมกับกิจกรรม เช่น หากต้องทำกิจกรรมที่ต้องลงน้ำ เช่น ว่ายน้ำ เล่นน้ำทะเล น้ำตก หรือทำกิจกรรมที่ออกแรง เสียเหงื่อเยอะ ๆ ก็ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่กันน้ำได้ (Waterproof Sunscreen)

• เลือกครีมกันแดดที่ปลอดภัย ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีอันตราย ที่ทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย

• ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือและผลิตโดยโรงงานที่ได้มาตรฐาน 

ครีมกันแดดทาหน้า ครีมกันแดด Sophist ครีมกันแดดที่เป็นมิตรกับผิวแห้งเสียแพ้ง่าย ปราศจากสารเคมี 100% ปกป้องผิวอย่างเข้มข้น ปรนนิบัติผิวอย่างอ่อนโยน

Sophist All-Physical Moisture Daily UV Defense SPF 50+ PA++++ 

• SPF50+ PA++++ ปกป้องผิวจากรังสี UVA-II, UVA-II, UVB, Blue Light, IR, Pollution ปกป้องจากผิวจากการถูกทำร้ายจากรังสีในแสงแดดได้อย่างครบครัน รวมไปจนถึงปกป้องผิวจากแสงสีฟ้า และมลภาวะ ฝุ่น ควัน
  
• เติมความชุ่มชื่นให้กับผิว ด้วย Hyaluronate 8 molecule ว่านหางจระเข้ และ Glycerine
  
• 3 พลัง Antioxidants : Lingonstem, Royal Jelly และ Vitamin E Tocotrienols ช่วยชะลอและปกป้องผิวจากความชรา ช่วยฟื้นบำรุงเกราะป้องกันผิวให้กลับมาแข็งแรง ท้าเผชิญแสงแดดได้อย่างมั่นใจ